ก็มันไม่ทราบจะทำอะไรแล้วครับ
บังเอิญเมื่อวานป๋าติ๊กแกให้ ชุดไฟ HID มา 1 ชุด(ระเบิดจากชุดที่ติ๊กซื้อมาเป็นคู่)
วันนี้เพื่อเป็นการฉลองศรัทธาเพื่อนก็เลยเอามาติดตั้งให้ดู
ขอมอบ DIY ชุดนี้ให้กับป๋าติ๊กครับ
ตามปกติป๋าไม่ค่อยเป็นแฟน HID เท่าไร ถ้าติดตั้งและปรับระดับไม่ดี มันจะไปแยงตาเพื่อนร่วมถนนที่วิ่งสวนมา
แต่นั้นเรื่องนึง การติดตั้งเป็นอีกเรื่อง ชุด HID ที่ใช้กับนินจาพอเหมาะพอเจาะไม่มี ต้องโมกันนิดหน่อย นี้แหละคือที่มาของ DIY ชุดนี้ครับ
มาดูกันเลย
ชุดสายไฟพร้อมหลอด HID ขนาด 4300K (อุณภูมิแสง) ต่ำสุดที่มีขายทั่วๆไป
ได้สีออกขาวนวนอมเหลือง ใกล้เคียงหลอดธรรมดา แต่ความเข็มสูงกว่า 3 เท่า
อุณหภูมิแสงยิ่งมาก แสงยิ่งอมฟ้า ถ้าฟ้ามากไป ขี่กลางคืนฝนตก หมอกลงจะมองทางไม่เห็น

เทียบหลอด HID และหลอดธรรมดา
ดูดีๆครับ หลอดธรรมดาต้องมีอะแด็บเตอร์เสียบที่ด้านท้ายเพื่อให้หนาพอที่จะให้สปริงหลังโคมล๊อกกดได้

ดึงแท่นหลอดธรรมดาออก จะเห็นว่า หลอด HID มีความหนาที่ด้านท้ายไม่เพียงพอ
อะแด็บเตอร์ก็เสียบไม่ได้ งานเข้าก็ตรงนี้แหละครับ

ตัวที่กำหนดความหนาท้ายหลอดก็คือเจ้าอะแด็บเตอร์ตัวนี้...........

ต้องนำมาใช้ด้วย การจะนำไปใช้ได้ มันต้องมีหน้าตาอย่างนี้..........
โดย......


เอาไฟแช็คลนที่ปลายขาเสียบสักพัก ความร้อนจะลามเข้าไปถึงชั้นใน
ทำให้วัสดุสังเคราะห์ที่ล๊อกขาเสียบอยู่อ่อนตัวลง

ใช้คีบดันที่ปลายขั้วเสียบ โลหะจะพะเยออออกมาอีกข้าง ใช้คีมดึงออกมาได้เลย

เอาอะแด็บเตอร์ไปคว้านรูปที่ด้านท้ายออกจนโบ้ครับ
ป๋าเล่นง่ายเพราะมีแท่นเจาะ ใครไม่มีก็ใช้สว่านเจาะเอา แต่งานออกมาสวยสู่ไม่ได้
เอาน่า ใช้ได้ก็แล้วกัน

เอาสายไฟจากท้ายหลอด HID ร้อยผ่านอะแด็บเตอร์ที่เจาะแล้วเลยครับ

ปรับให้รอยบากที่อะเเด็บเตอร์ ตรงกับรอยบากที่แท่นหลอด HID
รอยบากที่อะแด็บเตอร์มี 2 ข้าง ใช้ข้างไหนก็ได้

แล้วเอากาวร้อนแต้มที่ติ่งอะแด็บเตอร์ให้ติดกับแท่นหลอด HID ให้รอบ
หยอดน้อยๆก็พอครับ เอาแค่มันติดกันพออยู่

แค่นี้เราก็ได้แท่นหลอดที่มีความหนาเพียงพอให้สปริงล๊อกหลอดกดอยู่แล้วครับ
จากนั้นก็เอาหลอดไปประกอบกลับเข้าที่เดิมเหมือนหลอดธรรมดา
ยางกันน้ำก็ใส่ได้เหมือนเดิม


ใส่เสร็จ มองจากด้านหน้าโคมไฟ จะเป็นอย่างนี้ครับ

การต่อสายไฟก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ปลั๊กที่มาในชุดสลับกันไม่ได้ ไม่มีตัวไหนเหมือนกันสักตัว
มีแค่สาย 2 เส้นที่ไปต่อกับปลั๊กหลอดเดิมเท่านั้นที่ต้องระวัง
ดูสีสายให้ดี สายจากบาลาสตัวไหนที่มีสีฟ้า(ปน)ก็เอาไปเสียบกับปลั๊กหลอดเดิมที่มีสีฟ้า(ปน)
สายจากบาลาสตัวไหนที่มีสีดำ(ปน)ก็เอาไปเสียบกับปลั๊กหลอดเดิมที่มีสีดำ(ปน)

ที่เหลือก็หาที่ยึดบาลาสให้แน่นหนา ในที่นี้ป๋าเอาไปยึดกับโคลงแฟริ่งด้วยเคเบิลทายย์
หายางลองหลังมันซะหน่อยจะได้ไม่กระแทก
จริงๆเค้ามีกรอบยึดมาให้ด้วย แต่หาที่ติดไม่ได้ เลยใช้วิธีนี้ แน่นหนาดีครับ


เสร็จแล้วก็มาลองเปิดดู แต่ต้องสตาร์ทเครื่องก่อนครับ
นี้ขนาดกลางวันแสกๆ แสงก็สว่างขนาดนี้แล้ว กลางคืนจะขนาดไหน
ห้ามมองที่ขั้วหลอดนะครับ หน้ามืด เดียวจะหาว่าไม่เตือน (ป๋าทราบได้ไง?!!!)
ทั้งๆที่หวังใว้ว่าน่าจะใกล้เคียงกัน อุณหภูมิหลอด 4300K ออกสีขาวกว่าหลอดเดิมมาก


เมื่อตอนหัวค่ำป๋าออกไปลองไฟหน้าบ้าน มันสว่างกว่าหลอดเดิมมากมาย ถนนขาวโพลน
แต่มันสูงไปนิด แยงตาแน่ๆ ก็เลยจัดการปรับให้ต่ำลงอีกหน่อย ไม่งั้นใช้งานจริงชาวบ้านจะเจริญพรเอา
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมใส่หลอดเดียว ไม่ใส่มันทั้งไฟสูง/ต่ำ
ป๋าใส่ในไฟต่ำอย่างเดียวเพราะว่า หลอด HID มันใช้เวลาสตาร์ทจนขาวสนิทประมาณ 10วินาที
ถ้าไปใส่ในไฟสูงด้วย จะไม่สามารถดิฟไฟได้ ดิฟไปมันก็ไม่สว่าง ด้วยเหตุผลบรรทัดที่แล้ว
ฉะนั้นไฟสูงจึงใช้หลอดเดิมครับ
เรื่องอุณหภูมิแสงอีก ทำไมเล่นแค่ 4300K(ใจจริงอยากได้ 3500Kด้วยซ้ำ) ทั้งที่มันมีสูงกว่านี้ บางคนเล่น 10,000K กันเลย
อุณหภูมิแสง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสว่างและความร้อนเลยครับ 4300K และ 10,000K สว่างและร้อนเท่ากัน
ต่างกันที่สีครับ 4300K สีจะออกขาวอมเหลือง เป็นสีที่กลางคืนตัดสายฝนและหมอกได้ดี เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ส่วนอุณหภูมิแสงที่สูงกว่านี้ เช่น 6,000-10,000K สีของแสงที่ออกมา จะอมฟ้า
เวลาฝนตกหรือหมอกลง แสงจะกลืนกับหยดน้ำ จนมองไม่เห็นอะไรเลย เหมือนกับไม่ได้เปิดไฟเลย
เรื่องนี้ก็จบแค่นี้ครับ
ใช่ป๋าเอ็กรึเปล่าคับเนี้ย??
ตอบลบ(มาทุกDIYเลย)